
มนุษย์เราใช้การพูดในการสื่อสาร นอกจากการพูดแล้วเรายังสามารถสื่อสารด้วยท่าทางต่างๆได้อีกด้วย สุนัขก็มีวิธีการสื่อสารเช่นกัน นั่นก็คือเสียงเห่าและหอนนั่นเอง แต่เราเคยสงสัยกันไหมคะว่าเสียงเห่าหอนของสุนัขที่แตกต่างกัน มีความหมายแตกต่างกันอย่างไร? วันนี้ครูโจอี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับความหมายของเสียงเห่าของสุนัขที่มีมากถึง 10 แบบกันค่ะ จะมีเสียงเห่าแบบไหนบ้าง ตามไปอ่านกันต่อเลย!

เสียงเห่าของสุนัขแบบที่ 1 เสียงเห่าแบบดีใจ
เสียงเห่าแบบนี้มักจะเจอได้บ่อยๆ เช่น เวลาที่เจ้าของกลับมาบ้าน เสียงเห่าแบบนี้เป็นเสียงเห่าที่สดใส ตื่นเต้น ดีใจ มักจะมีอาการวิ่งวนไปมาและกระดิกหางของสุนัขร่วมด้วย
เสียงเห่าของสุนัขแบบที่ 2 เสียงเห่าแสดงอาณาจักรและขอบเขต
เสียงเห่าเตือนอาณาเขต มักจะเห่าแบบสั้นติดต่อกันเป็นเวลานานๆ แต่ไม่ใช่เสียงที่ดุหรือมาจากลำคอ เรามักจะพบการเห่าเพื่อแสดงอาณาเขตแบบนี้ได้จากสุนัขจรจัดที่อยู่ตามถนน เมื่อเราเดินผ่านเข้าไปใกล้อาณาเขต สุนัขจะเห่าเพื่อเตือนเราว่าบริเวณนี้เป็นอาณาเขตของเขา การเข้ามาจะต้องได้รับอนุญาติ
เสียงเห่าของสุนัขแบบที่ 3 เสียงเห่าบ่งบอกความเหงา
เสียงเห่าแบบนี้มักจะมีความอ้างว้าง มีความรู้สึกเจ็บปวดเล็กๆแฝงมาด้วย มักเกิดขึ้นเมื่อสุนัขโดนทิ้งให้อยู่ลำพัง หรือหลงทาง เสียงเห่าแบบนี้จะเป็นการเห่าแบบลูกผสม คือมีการเห่าผสมการหอน การเห่าแบบนี้เป็นการสื่อสารไปยังสุนัขตัวอื่นๆด้วย หากสุนัขฝ่ายตรงข้ามได้ยินก็อาจจะมีการเห่าแบบเดียวกันตอบกลับมานั่นเองเสียงเห่าของสุนัขแบบที่ 4 เสียงเห่าบอกความกลัว
เสียงเห่าแบบนี้จะเปลี่ยนแปลงเป็นความดุ อาการของสุนัขจะมีการก้มต่ำ หางจุกตูด ลำตัวเกร็ง เดินถอยหลังเพื่อหาที่ปลอดภัย เช่นมุมหรือซอกที่สุนัขรู้สึกปลอดภัย หลังจากนั้นสุนัขจะเห่าเตือนเราอย่างต่อเนื่อง แต่มีการเว้นระยะห่างช้าลงกว่าการเห่าเพื่อแสดงอาณาเขต หากเราเข้าหาสุนัขอย่างถูกวิธี สุนัขจะค่อยหดตัวลงและผ่อนคลายมากขึ้น
เสียงเห่าของสุนัขแบบที่ 5 เสียงเห่าแบบก้าวร้าว
เสียงเห่าแบบนี้จะเป็นเสียงเห่าคล้ายมาเฟีย เกิดจากเสียงที่เปล่งอออกจากท้องและลำคอ มีเสียงข่มอยู่ในเสียงคู่นั้น สุนัขมักจะมีอาการหูตั้ง ยิงฟัน แยกเขี้ยว ถ่างขาหลังออกและโยกตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อเตรียมจู่โจม หางตั้งขึ้น 90 องศา และเงยเพื่อจ้องตาคนหรือสุนัขที่คิดว่าเป็นศัตรู หากเราจเผลอไปจ้องตาสุนัขก็อาจจะทำให้สุนัขกระโจนกัดเราได้ค่ะ หากสุนัขของคุณมีการเห่าแบบก้าวร้าว สิ่งที่คุณต้องทำก็คือควบคุมสถานการณ์ให้ได้ พยายามเบี่ยงเบนความสนใจสุนัขจากสิ่งที่เขาเห่าก่อนที่สุนัขจะเตลิดไปถึง Red Zone (อาการสติหลุดในสุนัข)เสียงเห่าของสุนัขแบบที่ 6 เสียงเห่าแบบตื่นเต้น
การเห่าแบบนี้เป็นการเห่าแบบ Positive สุนัขจะเห่าเมื่อมีอาการตื่นเต้น สนุก เช่น เวลาเล่นกับเจ้าของหรือสุนัขตัวอื่น จะเป็นการเห่าที่มีเสียงค่อนข้างกังวาล สบายๆ เป็นเสียงที่ฟังแล้วไม่รู้สึกเครียด ไม่ใช่เสียงที่ออกจากลำคอเหมือนการเห่าแบบก้าวร้าว
เสียงเห่าของสุนัขแบบที่ 7 เสียงเห่าเมื่อสุนัขรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่มั่นคง
เป็นเสียงเห่าที่ไม่ผ่อนคลาย มีเสียงข่ม สั้น และใช้โทนต่ำ นอกจากนี้สุนัขจะวิ่งไปเฝ้าดูอะไรบางอย่างที่ทำให้สุนัขรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่มั่นคง เพื่อจะพยายามฟังหรือมอง อาจจะมีการตอบสนองที่ดุดัน เช่น การกระโจน หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้เจ้าของสุนัขจะต้องเฝ้าระวังอันตรายทันที เพราะการเห่าแบบนี้เป็นการเห่าที่ผิดปกติ อาจจะมีโจร หรือ สัตว์เลื้อยคลาน ที่ทำให่สุนัขรู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ในบริเวณใกล้เรา