จบปัญหาหนักใจ ฝึกสุนัขยังไงให้นอนนอกบ้านอย่างมีความสุข

 
 
 

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ครูโจอี้มีเกร็ดความรู้ดีๆมาฝากกันอีกแล้วค่ะ ใครที่กำลังอยากจะฝึกสุนัขให้นอนนอกบ้านต้องอ่านบทความนี้เลยค่ะ เพราะวันนี้ครูโจอี้จะมาพูดถึง การเตรียมตัวสำหรับการฝึกสุนัขให้นอนนอกบ้าน วิธีการฝึกสุนัข ข้อควรระวังของการให้สุนัขให้นอนนอกบ้าน ว่าแต่จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

เตรียมสถานที่สำหรับให้สุนัขอยู่นอกบ้าน

แน่นอนว่าสิ่งที่เราต้องมีในการฝึกสุนัขให้อยู่นอกบ้านก็คือคือ กรงสุนัข หรือ บ้านสุนัข นั่นเองค่ะ กรงสุนัข หรือ บ้านสุนัข ก็ควรจะต้องมีมุ้งสำหรับกันยุง กันแมลงต่างๆที่จะเข้ามากัดสุนัขของเราด้วย มิเช่นนั้นอาจจะทำให้สุนัขของเราได้รับบาดเจ็บหรือเป็นโรคได้ นอกจากนี้เราควรจะเลือกวางบ้านหรือกรงสุนัขในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทด้วยนะคะ

สำหรับใครที่อยากให้สุนัขมีขนที่สวยงามครูโจอี้แนะนำให้ติดเครื่องปรับอากาศในบ้านสุนัข บ้านไหนที่ติดเครื่องปรับอากาศให้กับสุนัขแล้ว เราก็ควรจะจัดตารางในการเปิดปิดเครื่องปรับอากาศให้ชัดเจน ไม่ควรให้สุนัขอยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน เนื่องจากการที่สุนัขอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลาอาจจะทำให้สุนัขมีเชื้อรา หรือ อาจจะทำให้สุนัขไม่แข็งแรง

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เจ้าของสุนัขหลายคนอาจจะคิดไม่ถึงก็คือเรื่องของตำแหน่งการวางกรงหรือบ้านสุนัข ส่วนใหญ่แล้วบ้านในประเทศไทยจะถูกออกแบบมาให้มีพื้นที่หน้าบ้านกว้างกว่าพื้นที่หลังบ้าน ทำให้การเลือกวางบ้านสุนัขคล้ายจะถูกบังคับกลายๆให้วางที่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งการวางบ้านสุนัขในตำแหน่งนี้จะทำให้สุนัขมองเห็นสิ่งรบกวนตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น มอร์เดตอร์ไซด์ขับผ่าน คนเดินผ่าน หรือแม้แต่สัตว์ต่างๆเดินผ่าน เมื่อสุนัขเห็นสิ่งเร้าต่างๆเหล่านี้เขาก็จะเห่าเพื่อบอกเรา ทำให้สุนัขมีนิสัยวิตกจริต ปากเปราะ ไวต่อสิ่งเร้าโดยไม่รู้ตัว เพราะการหลับนอนของเขาไม่เป็นเวลา เนื่องจากมีสิ่งเร้าต่างๆเข้ามารบกวนได้ตลอดโดยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้สุนัขนอนหลับด้วยความกังวล เพราะนอกจากจะทำให้สุนัขพักผ่อนไม่เพียงพอแล้วยังทำให้สุนัขมีนิสัยดุร้าย วิตกจริต และปากเปราะอีกด้วย

ในกรณีที่พื้นที่แคบมากๆ และจำเป็นต้องวางหน้าบ้าน เราจำเป็นต้องมีพาร์ทิชั่นหรือผนังเบามาบังสายตาสุนัข หรืออาจจะใช้ผ้าแทนได้ แต่ควรจะระมัดระวังเรื่องอากาศถ่ายเทให้ดี เพราะตำแหน่งที่เราวางบ้านสุนัขควรเป็นจุดที่อากาศถ่ายเทได้ดีเช่นกัน

จัดตารางการใช้ชีวิตนอกบ้านของสุนัขให้เป็นเวลา

จริงๆแล้วไม่ใช่แค่การใช้ชีวิตนอกบ้านของสุนัขเท่านั้นที่เราจะต้องจัดให้เป็นเวลาชัดเจน แต่การนอน การตื่น การกิน การขับถ่าย การออกกำลังกาย และการฝึกสุนัข ก็ควรจะจัดตารางเวลาให้ชัดเจนเช่นกัน เพราะการจัดตารางเวลาที่ชัดเจนจะทำให้สุนัขเคยชินกับกิจวรรดิประจำวันต่างๆ การเข้าบ้านก็จะไม่ใช่เรื่องที่หนักหนาสาหัสอีกต่อไป

 
 
 
 

วิธีฝึกให้สุนัขอยู่นอกบ้านอย่างสงบและมีความสุข

ในวันแรกที่เราซื้อบ้านหรือกรงสุนัข สิ่งที่เราควรทำก็คือการพาสุนัขไปดมบ้าน เดินเข้า-ออก ตัวบ้าน แน่นอนว่าการเดินนี้จะต้องใช้สายจูงสุนัขเข้ามาช่วยในการนำสุนัขเข้าบ้าน เพราะสุนัขบางตัวอาจจะไม่ยอมเข้าไปในบ้านแต่โดยดี และตัวของเราเองก็ควรจะเข้าไปในบ้านพร้อมกับสุนัขด้วย พยายามใช้วเลาในบ้านกับสุนัขสักพัก เพื่อให้สุนัขเกิดความคุ้นชิน พยายามหาสิ่งของที่เขาชอบเอาไปไว้ในบ้าน เพื่อให้เขารู้สึกมีความสุขเวลาที่เข้าไปอยู่ในบ้านของเขาเอง หลังจากนั้นจึงค่อยๆจูงสุนัขออกมา

สิ่งสำคัญมากๆ! ทุกครั้งที่เราพาสุนัขเข้าบ้าน จะต้องไม่ยัดสุนัขเข้าไปในบ้านเด็ดขาด การทำแบบนี้จะทำให้สุนัขรู้สึกไม่ดี สุนัขจะรู้สึกเหมือนถูกขัง ไม่ใช่การเข้าบ้าน เพราะฉะนั้นตัวเราจะต้องเป็นสื่อกลางระหว่างสุนัขและบ้านสุนัขนั่งเองค่ะ

วิธีการฝึกคือ พยายามจูงสุนัขเข้าไปในบ้าน ทิ้งระยะเวลาสักครู่ หลังจากนั้นจึงจูงสุนัขออกมาโดยที่ยังไม่ต้องปิดประตู ทำแบบนี้ประมาณ 3-4 รอบ หรือ จนรู้สึกว่าสุนัขไม่ขัดขืนมากเหมือนในตอนแรก ให้ลองปรับเป็นการจูงสุนัขเข้าไปในบ้านโดยที่ตัวเรายังอยู่นอกบ้าน หลังจากนั้นให้ดึงสายจูงเบาๆเพื่อพาสุนัขออกมาจากบ้าน และให้คำชมแก่สุนัข

ในรอบต่อไปให้เพิ่มคำสั่งคอย ในระหว่างที่สุนัขอยู่ในบ้าน ถ้าสุนัขทำตามคำสั่งให้ทำการปลดสายจูง หากสุนัขพยายามจะเดินออกจากบ้าน ให้ใช้คำสั่ง คอย ย้ำอีกครั้ง และใส่สายจูงเพื่อพาสุนัขเดินออกมาใหม่

ในรอบต่อไปจูงสุนัขและสั่งให้คอยในบ้านพร้อมกับปลดสายจูง หากสังเกตุว่าสุนัขไม่ได้พยายามตะเกียกตะกายออกมาแล้วให้ทำการปิดประตูเบาๆโดยที่เรายังยืนดูสุนัขอยู่หน้าบ้านของเขา ทิ้งระยะเวลาสักครู่ หลังจากนั้นจึงเปิดประตูและพาสุนัขออกมาใหม่ การทำแบบนี้เป็นการฝึกให้สุนัขคุ้นชินกับสถานที่ โดยทำให้เขารู้สึกว่าสุนัขสามารถเข้าออกบ้านของเขาด้วยความสบายใจ ไม่ใช่การกักขัง

การฝึกสุนัขให้ใช้ชัวิตนอกบ้านจะเห็นผลช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับตัวเจ้าของสุนัขเองว่า เจ้าของสุนัขฝึกบ่อยแค่ไหน ส่งอารมณ์แบบไหนไป การฝึกสุนัขควรจะใช้อารมณ์ที่ผ่อนคลาย สนุกสนาน ไม่ตึงจนเกินไป ไม่บีบบังคับสุนัข ค่อยๆฝึกไปเรื่อยๆจนสุนัขโอเค หลังจากนั้นให้เราปิดประตูและเดินจากไปโดยไมต้องส่งความรู้สึกกังวลไปให้สุนัข(พูดคุย ร่ำลา หน้าบ้าน) เพราะอาจจะทำให้สุนัขเกิดความหวาดระแวงได้ หลังจากนั้นทิ้งระยะเวลาสัก 1 ชั่วโมงจึงปล่อยสุนัขออกมาวิ่งเล่นข้างนอกบ้าน และพาเขากลับเข้าบ้านโดยเพิ่มระยะเวลาให้เขาอยู่ในบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ ครูโจอี้แนะนำว่า ไม่ควรให้สุนัขอยู่ในบ้านในช่วงกลางวันนานเกิน 4 ชั่วโมงต่อครั้งนะคะ เนื่องจากการขังสุนัขนานเกินไปอาจจะทำให้สุนัขเครียดได้ การให้สุนัขอยู่ในบ้านเป็นเวลานานควรทำเฉพาะช่วงกลางคืนที่เป็นช่วงการนอนหลับของสุนัขเท่านั้น เพราะปกติแล้วสนุขัจะนอนวันละประมาณ 15 ชั่วโมง

ในระหว่างการฝึกและจัดตารางการใช้ชีวิตของสุนัข คงจะมีบ้างที่สุนัขบางตัวอาจจะส่งเสียงเห่าหรือหอนโวยวาย เจ้าของสุนัขไม่ควรไปคุยกับเขานะคะ การที่เราคุยกับสุนัขเปรียบเสมือนการที่เราไปเถียงกับสุนัข สุนัขก็จะเห่ากลับ เจ้าของสุนัขขจะต้องใจแข็งและฝึกให้เป็นกิจวรรดิประจำวันให้ได้ ครูโจอี้เชื่อว่าไม่มีทางที่สุนัขจะไม่ชินอย่างแน่นอนค่ะ

 
 
 
 

เทคนิคลดความงอแงของสุนัขเมื่อถึงเวลาเข้าบ้าน

วิธีที่ง่ายๆที่จะทำให้สุนัขร้องหรือโวยวายน้อยที่สุดเมื่อต้องเข้าบ้านก็คือการทำให้สุนัขเหนื่อยและพาเขาเข้าบ้านในขณะที่เขากำลังเหนื่อยนี่แหละค่ะ เมื่อสุนัขออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านมาไม่ว่าจะเป็นการฝึกหรือการออกกำลังกาย หลังจากเขาทำกิจกรรมเสร็จเขาจะใช้พลังงานไปค่อนข้างเยอะ การเอาสุนัขเข้าบ้านในช่วงเวาลานี้ก็จะเป็นช่วงเวลาที่สุนัขต้องการพักผ่อนพอดี เช่นเดียวกับคนเรา เวลาที่เราออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน กลับบ้านมาเราเองก็อยากพักผ่อน การเข้าบ้านก็จะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงในทันตาค่ะ ครูโจอี้ขอแนะนำว่า ไม่ควรจัดตารางให้สุนัขเข้าบ้านในเวลาที่เขายังมีพลังงานล้นเหลือนะคะ

ใครที่กำลังอยากฝึกให้สุนัขนอนนอกบ้านก็อย่าลืมลองเอาไปใช้กันดูนะคะ ครูโจอี้หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่กก็น้อย ครั้งหน้าครูโจอี้จะมีบทความดีๆเรื่องอะไรมาฝาก อย่าลืมติดตามกันนะคะ

 
 
 

Pin It on Pinterest