10 สัญญาณ เสี่ยงโรคซึมเศร้าในสุนัข หากปล่อยไว้ไม่ดูแล เขาอาจตรอมใจตายได้

 
 
 
คุณรู้หรือเปล่าว่า ไม่ใช่แค่คนเท่านั้นที่เป็นโรคซึมเศร้า แต่สุนัขก็เป็นโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน ซึ่งทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่าสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอันดับหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคนี้ บางตัวอาจถึงขั้นตรอมใจตายได้เลยทีเดียว หากสุนัขที่บ้านมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง ไม่ร่าเริงสดใสอย่างที่เคยเป็น ลองมาสำรวจกันดูไหมว่าสุนัขของคุณมีอาการเข้าข่ายโรคซึมเศร้ารึเปล่า? เราจะรู้ได้อย่างไร วันนี้ครูโจอี้มีคำตอบ

10 อาการที่บ่งบอกว่าสุนัขของคุณอาจจะเป็นโรคซึมเศร้า


หอนผิดปกติ

สุนัขมีอาการหอนที่ไม่ใช่การสื่อสาร ไม่ใช่การติดสัด แต่เป็นเสียงหอนเศร้าๆ แววตาเหม่อลอยไม่มีโฟกัส มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้

ตัวงอ

สุนัขทำตัวงอ ไม่ยอมให้จับ แปลว่าสุนัขกำลังรู้สึกไม่ปลอดภัย มักมีอาการหางตก หูลู่ไปทางด้านหลัง และมีแววตาหวาดระแวงร่วมด้วย ตาขาวเบิกกว้าง นิ่ง ตัวเกร็ง

กัดหางตัวเอง

อาการ งับ หรือ กัดหางตัวเองแล้วหมุนเป็นวงกลม เป็นภาวะของการย้ำคิดย้ำทำ มีความเครียดสะสม คล้ายกับที่คนกัดเล็บจนเป็นความเคยชิน ซึ่งสาเหตุก็มาจากความกังวล ส่งต่อเป็นความเครียดสะสม เกิดกรดในกระเพาะหรือบางบ้านไม่มีกิจกรรมให้ระบายพลังงานที่สะสมในตัวเอง การกัดหางเมื่อไม่ได้รับการแก้ไขจะกัดจนเลือดออก และกลายเป็นหมาโรคจิตได้

หาวบ่อย

หากสุนัขดูอ่อนเพลีย หาวบ่อย ง่วง อยากพักผ่อน เกิดอาการหาวบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณเตือนว่าน้องหมากำลังเครียด เบื่อ หรือกระวนกระวายใจ และนอนไม่พอ

นอนซึม

หากช่วงไหนน้องหมาเอาแต่นอนซึม เก็บตัวในที่แคบทั้งวัน เรียกก็ไม่ยอมออกมา เก็บตัวในซอก หรือที่แคบ หรือใต้โต๊ะ ใต้เตียง ใต้เก้าอี้ อาการแบบนี้บ่งบอกได้ว่าน้องหมารู้สึกไม่ปลอดภัย และไม่ไว้ใจคุณที่เป็นคนในบ้าน หรือเจ้าของ เช่นมีกิจกรรมที่เปลี่ยนไป มีเสียงประหลาด มีการทะเลาะรุนแรง เจ้าของไม่มั่นคง สมดุล

ยกขาหน้าบ่อยๆ

สุนัขจะยกขาหน้าหนึ่งข้าง ต้องสังเกตดีๆ ว่ามันไม่ได้เจ็บขา หรือเพิ่งสะดุดล้มขากะเผลก สามารถเช็คได้ด้วยการจับขาแล้วยืดเบาๆ แต่ถ้าเกิดอาการหวงขาขึ้นมา จับแล้วร้อง แปลว่าเจ็บขาจากบาดแผลหรืออุบัติเหตุ แต่ถ้าอยู่ดีๆ สุนัขก็ชอบยกขาหน้าบ่อยๆ แววตาดูไม่สดใส หูลู่ นั่นคือการบ่องบอกว่าสุนัขกำลังกังวล ไม่สบายใจกับอะไรบางอย่าง และไม่พร้อมที่จะอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ อาจนำไปสู่ภาวะโรคซึมเศร้าได้

หางตกลู่ตลอดเวลา

ข้อนี้น่าจะเข้าใจกันดีคือ การแสดงถึงความหวาดกลัว หวาดระแวง และมักแสดงพฤติกรรมนี้เมื่อถูกดุ แต่จะกลับมาสู่สภาวะปกติได้เมื่อผ่านพ้นสถานการณ์นั้นไปแล้ว กลับกัน หากมันหางตกลู่ตลอดเวลา ก็แปลว่าน้องหมากำลังหวาดกลัว ระแวง ไม่ไว้ใจผู้คน สถานที่ หรือสถานการณ์รอบตัว หากเป็นนานและไม่หายเป็นระยะเริ่มต้นของโรคซึมเศร้าได้

ไม่ร่วมกิจกรรม

ซึม หงอย ไม่เล่น ไม่ยอมกินอาหาร เรียกก็ไม่มาหา หรือถึงขั้นอาเจียนเป็นฟองสีเหลือง คือเครียดลงกระเพาะ มีกรดนั่นเป็นอาการที่กำลังบ่งบอกว่า สุนัขกำลังเครียดจัดและเศร้าหนัก

กัดแทะตัวเอง

การกัดแทะตัวเองจนเป็นแผล เช่นบริเวณขาหรือเล็บ เป็นอีกข้อที่ผู้เลี้ยงต้องสังเกตให้ดี ว่าอาการนี้ไม่ได้เป็นเพราะน้องหมาคันจากโรคผิวหนัง และเกิดพฤติกรรมการกัดแทะตัวเอง หากแน่ใจว่าไม่ใช่ นั่นแสดงว่ามันกำลังเครียด หรือเบื่อหน่ายสะสมอย่างสุดๆเหวี่ยง เพราะความเปลี่ยนแปลง หรือการรอเจ้าของนานๆ

แววตาขุ่นมัว

ดวงตาของสุนัขไม่เคยโกหก หากมันป่วยจะแสดงออกได้ทางแววตาทันทีคือ ตาขุ่นมัว ไม่สดใสเป็นประกาย (ไม่นับสุนัขที่มีอาการป่วยทางดวงตา เช่น ต้อกระจก) ให้สันนิษฐานได้เลยว่าน้องหมาของคุณอาจกำลังประสบปัญหาโรคซึมเศร้า

วิธีป้องกันโรคซึมเศร้าในสุนัข

การป้องกันและรักษาโรคซึมเศร้าในสุนัขควรหมั่นพาสุนัขออกไปนอกบ้านเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ไปในที่ที่มีธรรมชาติ ผ่อนคลาย วิ่งเล่น ออกกำลังกายด้วยกีฬา เช่นการพาไปทะเล ว่ายน้ำในสระน้ำ การพาขึ้นลู่วิ่งออกกำลังกายเพื่อฝึกสมาธิ การขี่จักรยานกับสุนัข การเล่นเกมส์เสริมสร้างภูมิปัญญา หรือสัญชาตญาณ เปิดเพลงเบาๆ ช้าๆ หรือเพลงธรรมชาติเพื่อให้สมองผ่อนคลาย การให้รางวัลเช่นขนม หรือของเล่นที่ชอบ โดยที่คุณต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมนั้นๆ

4 สิ่งที่ควรทำหากสุนัขมีอาการ เหงา/ซึมเศร้า

  • ควรพาไปพบจิตแพทย์ ใช่ค่ะ! อ่านไม่ผิด! นั่นก็คือครูฝึกด้านจิตวิทยาสุนัขซึ่งในต่างประเทศมีเยอะมาก แต่ในบ้านเราก็ต้องหาข้อมูลกันหน่อย
  • การฝังเข็มรักษาในต่างประเทศ แต่ในบ้านเรายังไม่เป็นที่ยอมรับ ช่างเศร้าใจนัก
  • Relaxing massage หรือ Aroma therapy การนวดผ่อนคลาย การใช้กลิ่นที่สุนัขชอบ
  • พาไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เชื่อถือได้
 
 
 
 
อ่านจบแล้วอย่าลืมหันไปสำรวจน้องหมาของคุณว่า น้องหมามีภาวะโรคซึมเศร้าที่ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดหรือไม่? อย่าปล่อยให้สุนัขของคุณต้องอยู่ตัวเดียวตามลำพังนานเกิน 7 ชั่วโมงขึ้นไป หรือไม่ได้ใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันเลย และนานจนคุณแทบจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เล่นกับมันคือเมื่อไหร่ การเดินผ่านมันแล้วจับมัน และเดินจากไปนั้นปวดร้าวมาก หากคุณหันกลับไปมองแววตาที่รอคอยคุณเสมอ คอยมองแผ่นหลังของคุณเดินจากไป น้องหมาไม่เคยเรียกร้องอะไร พวกมันคิดว่าพวกมันรอคุณได้เสมอ แต่จิตใจของพวกมันค่อยๆป่วยและอ่อนแอลงทุกวัน ถ้าคุณไม่อยากเสียพวกมันไปตลอดกาล อย่าลืมหันไปใส่ใจดูแล และใช้เวลาที่คุณกดมือถือ เล่นกับพวกมันบ้างนะคะ
 

Pin It on Pinterest