1. สุนัขเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์
สุนัขไม่หลอกเรา เขามักจะเก็บความรู้สึกได้ไม่นาน บางตัวอาจจะขี้อาย ไม่มั่นใจในตัวเอง แต่เขามักจะแสดงอารมณ์อย่างตรงไปตรงมาในที่สุด
2. สุนัขไม่เคยท้อแท้
เขาเข้มแข็งและก้าวไปข้างหน้าเสมอ ถึงแม้สุนัขบางตัวอาจจะมีปมทางจิต ก้าวร้าว ที่เกิดจากความกลัวจากอดีตที่ผ่านมา เมื่อก้าวผ่านปัญหาไปได้ สุนัขก็มีวันใหม่ที่ดีได้ทุกวัน ต่างกับมนุษย์ ที่เรายังวนเวียนกลับมาคิดถึงปมเก่าอยู่บ้าง แต่สุนัขจะร่าเริงได้ตามปกติโดยที่จะไม่มีการมาจมอยู่กับปมเก่าแบบมนุษย์ค่ะ
3. สุนัขอยู่ร่วมกันเป็นฝูงได้เสมอ หากเราสร้างฝูงที่สมดุลให้เขาได้
จากประสบการณ์ตรงของครูโจอี้ที่เลี้ยงสุนัขหลายสายพันธุ์พร้อมกัน สิ่งที่ได้เรียนรู้ก็คือ เราสามารถปล่อยให้สุนัขอยู่ด้วยกันได้ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ใด หากสร้างความสมดุลในฝูงได้ ถึงแม้บางครั้งจะมีการทะเลาะกันบ้าง แต่สุดท้ายความสมดุลจะทำให้ทุกอย่างกลับมาปกติค่ะ
4. สุนัขไม่ได้มองที่ภายนอก
สุนัขมองคนที่จิตใจและพลังงานเป็นหลัก สุนัขไม่ได้มองว่าเราหล่อสวย รวยจน หรือแต่งตัวดีแค่ไหน เขาจะสัมผัสได้ถึงพลังงานของเราได้ลึกมากอย่างที่เราไม่คาดคิดมาก่อนเลยล่ะค่ะ
5. สุนัขมีแค่คำว่า “เรา”
ข้อนี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ครูโจอี้ได้เรียนรู้จากสุนัขนะคะ สำหรับสุนัขแล้วไม่มีคำว่าฉันหรือเธอ สุนัขมีแค่คำว่าเรา ซึ่งหมายถึงฝูงของสุนัขนั่นเองค่ะ
6. สุนัขต้องการแค่ความพอดี
สุนัขไม่เคยถามว่าเราดีพอไหม สุนัขแต่ละตัวเขาต้องการแค่ความพอดี ซึ่งความพอดีของสุนัขแต่ละตัว แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ไม่ต้องสงสัยว่าเราดีพอสำหรับสุนัขไหม หรือเราดูแลสุนัขได้ดีไหม แต่เปลี่ยนเป็นมุมมองที่ว่า สิ่งที่เราให้เขาไป พอดีกับเขาหรือเปล่าแทนนะคะ
7.สุนัขอยู่แบบธรรมชาติ
สุนัขอยู่แบบธรรมชาติและสามารถปรับเปลี่ยนไปตามสิ่งแวดล้อม โดยสุนัขจะไม่ดำรงอยู่ด้วยการฝืนธรรมชาติแบบมนุษย์
8.สุนัขรักคุณที่ตัวตนของคุณ
สุนัขจะไม่คาดหวังให้คุณเปลี่ยนแปลง เขาต้องการเพียงความรักและเอาใจใส่ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเขา
9.สุนัขอยู่กับปัจจุบันเสมอ
สุนัขอยู่กับปัจจุบันและทำวันนี้ให้ดีที่สุด จะเห็นได้จากเคสไข่ตุ๋นนี่แหละค่ะ หลังจากที่เราได้เอาเขามาฝึกจนก้าวข้ามผ่านปมของเขาไปได้ ไข่ตุ๋นก็สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติโดยที่ไม่ได้จมอยู่กับปมในอดีต
10.สุนัขคือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์
ใครที่เลี้ยงสุนัขคงจะเข้าใจเรื่องนี้ดีเลยใช่ไหมล่ะคะ ถ้าเลี้ยงแบบสนิทกันมากๆ จะรู้เลยว่าสุนัขนี่แหละ เพื่อนยากที่ดีที่สุดของมนุษย์
11.การช่วยเหลือ คือ การได้รับความช่วยเหลือ
อีกครั้งที่ต้องเล่าถึงเคสของไข่ตุ๋นนะคะ หลายๆคนอาจจะมองว่าครูโจอี้เป็นคนดี เป็นนางฟ้า ช่วยเอาไข่ตุ๋นมาฝึก แต่จริงๆแล้วครูโจอี้ขอบอกไว้ตรงนี้เลยค่ะว่าครูโจอี้เองก็ได้รับความช่วยเหลือจากไข่ตุ๋นเยอะมากๆ เขาทำให้ครูโจอี้ฝึกสุนัขได้เก่งขึ้นเพราะต้องคอยหาวิธีหรือเทคนิคใหม่ๆมาใช้ เนื่องจากเป็นเคสที่ยากมากๆเคสนึงเลยค่ะ และไข่ตุ๋นเองก็ช่วยเยียวยาจิตใจของครูโจอี้ในบางเรื่องด้วย เรียกได้ว่าเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกันมากกว่า
12.จงอดทน เชื่อมั่น รอคอย และให้โอกาส
ใครก็ตามที่เลี้ยงสุนัข จะต้องมีความอดทน เชื่อมั่น รอคอย และให้โอกาส
13.สุนัขเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซื่อสัตย์และภักดี
สุนัขทุกๆตัวที่ผ่านเข้ามาให้ครูโจอี้ได้ฝึกและได้ช่วยเหลือ ถือได้ว่าเป็นทุกๆอย่างของครูโจอี้เลยล่ะค่ะ สุนัขเป็นทุกบทบาทในชีวิตเรา เป็นเพื่อน เป็นนักเรียน เป็นครู
14.ความสุขของมนุษย์ อยู่ที่หัวใจและการใช้สติ แต่ความสุขของสุนัข อยู่ที่ตัวคุณ
15.สุนัขไม่เคยลืมเจ้าของหรือผู้มีพระคุณ
เจ้าของต่างหากที่จะเป็นฝ่ายลืมสุนัข
16.สัญชาตญาณของสุนัขมาจากจิต และสื่อมาทางภาษากาย
สุนัขใช้หัวใจและพลังงานในการดำรงชีวิต โดยสื่อออกมาทางภาษากาย จากสัญชาตญาณโดยใช้จิต
17.การเป็นคนกล้า ไม่จำเป็นต้องไม่กลัวอะไร แต่แค่ต้องกล้าทำในสิ่งใหม่ และเป็นเรื่องที่ควรทำ
เป็นบทเรียนที่ได้จากการฝึกสุนัขจริงๆ ครูโจอี้จะคิดไม่ได้เลยถ้าไม่เคยฝึกสุนัขมาก่อน
18.บางครั้งหัวใจก็ไม่รู้ว่ามันต้องการอะไร จนกระทั่งได้พบว่า นี่แหละ คือสิ่งที่หัวใจค้นหามานาน
19.จงมีความสุขกับชีวิตของตนเอง มีความสุขกับสิ่งเล็กๆรอบตัว โดยไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใคร
20.จงพุ่งไปสู่เป้าหมายอย่างจ่าฝูง
มั่นคง มั่นใจ และช่วยเหลือฝูงด้วยแรงบันดาลใจของหัวใจที่เรียกร้องให้ทำ อย่าทำไปเพราะมั่นหน้า มั่นเงิน มั่นอำนาจ เพราะมันจะไม่จีรังยั่งยืน
21.ความมั่นใจ ไม่ได้มาจากการรู้คำตอบทุกเรื่อง แต่มาจากความพร้อมที่จะเจอกับคำถาม และแก้ไขปัญหาได้ทุกรูปแบบ
