สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ครูโจอี้มาพร้อมกับเกร็ดความรู้ดีๆที่จะช่วยให้เจ้าของสุนัขทุกคนสามารถสังเกตความผิดปกติของสุนัขได้ด้วยตัวเอง ซึ่งต้องบอกเลยว่า สามารถทำได้ด้วยตัวเองไม่ยากเลย ครูโจอี้ได้สรุปมาเป็น Checklist ให้เรียบร้อยแล้ว ตามไปอ่านกันต่อได้เลยค่ะ
1.เช็กความผิดปกติของอึและฉี่สุนัข
อึ หรือ อุจจาระของสุนัขเป็นตัวช่วยบอกว่าสุนัขเริ่มป่วยหรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือไม่ ซึ่งอุจจาระของสุนัขจะมีทั้งแบบเป็นก้อน (ก้อนแข็ง หรือ ก้อนนิ่ม) และ ถ่ายเหลว (เหลวแบบเป็นโจ๊ก หรือ เหลวแบบมีวุ้นเมือก)
ฉี่ของสุนัขเป็นอีกหนึ่งอย่างที่สามารถบอกได้ถึงความผิดปกติของสุนัข หากฉี่เป็นสีส้ม สุนัขอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคพยาธิเม็ดเลือด หากเป็นสีเหลืองเข้มสุนัขอาจจะกินน้ำน้อยเกินไป มีของเสียเยอะ หรือค่าไตสูง เป็นต้น หรือหากฉี่เป็นสีขาว แสดงว่าสุนัขมีการดื่มน้ำเยอะนั่นเองค่ะ
2.เช็กความผิดปกติของทางเดินอาหาร
หมั่นสังเกตว่าสุนัขมีการอาเจียนที่ผิดปกติหรือไม่ บางครั้งสุนัขอาจจะมีการอาเจียนหลังจากไปกินหญ้าตามสนามหญ้า ซึ่งอาจเป็นการอาเจียนตามปกติ แต่หากการอาเจียนมีเลือดผสมมาด้วย มีสิ่งแปลกปลอมผสม ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ค่ะ
3.เช็กความผิดปกติของลิ้นและเหงือก
โดยปกติลิ้นของสุนัขจะเป็นสีชมพู หากลิ้นของสุนัขมีสีแดงเข้ม หรือ แดงก่ำ สันนิษฐานได้ว่าสุนัขอาจจะป่วย ถ้าเป็นสีม่วงมีโอกาสช็อกและเสียชีวิตได้
4.เช็กความผิดปกติของลมหายใจ
ควรเช็กว่าสุนัขหายใจในจังหวะปกติ หรือ หายใจเร็วจนเริ่มเหนื่อย หรือ ลมหายใจมีความร้อนผิดปกติหรือไม่ นอกจากนี้ควรดูจมูกของสุนัขด้วยว่าแห้งหรือเปียกจนเกินไปหรือไม่ เพราะหากสุนัขหายใจเร็วผิดปกติ หรือ มีลมหายใจที่ร้อนผิดปกติ อาจจะเป็นสัญญาณบอกเราได้ว่าสุนัขกำลังป่วย
5.เช็กความผิดปกติของช่องปาก
ช่องปากของสุนัขก็มีเจ้าหินปูนเหมือนกับช่องปากของคนเรานี่แหละค่ะ ลองดูว่าในปากของสุนัขมีหินปูนหรือไม่ หากสุนัขมีหินปูนเล็กน้อยสามารถขูดออกเองได้ (ไม่แนะนำให้ทำหากไม่มีความชำนาญ) แต่ต้องระหวังไม่ให้หินปูนลงไปในคอสุนัข เพราะอาจจะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ แต่หากสุนัขมีหินปูนเยอะ เชื้อโรคที่สะสมอาจจะทำให้สุนัขป่วยได้ ซึ่งการขูดหินปูนที่โรงพยาบาลก็จะต้องมีการวางยาสุนัขด้วยซึ่งอาจจะมีความเสี่ยงอื่นๆตามมา ดังนั้นควรดูแลสุขภาพช่องปากของสุนัขอย่างสม่ำเสมอนะคะ
6.เช็กความผิดปกติของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย
อีกหนึ่งจุดที่ต้องหมั่นสำรวจนั่นก็คือก้อนเนื้อบริเวณร่างกาย หากเจอว่ามีก้อนเนื้อเกิดขึ้นอย่าเพิ่งตกใจ ให้ลองสังเกตดูก่อนว่าก้อนเนื้อนั้นเป็นก้อนแข็งหรือนิ่ม หรือเนื้องอกมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือไม่ หากมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆควรพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์นะคะ คุณหมอจะพิจารณาความรุนแรง หรือความเร่งด่วนในการเอาก้อนเนื้อออก โดยจะมีวิธีการต่างๆในการเอาเนื้องอกออกไปหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด หรือการจี้ออก
7.เช็กความผิดปกติของก้นและอวัยวะเพศ
อีกหนึ่งจุดที่ต้องดูก็คือก้นและอวัยวะเพศของสุนัข ลองสังเกตดูว่าก้นหรืออวัยวะเพศมีอาการบวมแดงหรือไม่ มีเลือดออกไหม มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ มีน้ำหนองหรือน้ำเหลืองไหลออกมาจากอวัยวะเพศของสุนัขรึเปล่า ถ้าหากเจอความผิดปกติเหล่านี้ควรรีบพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์นะคะ
8.เช็กความผิดปกติของ ตา และ หู
หมั่นสังเกตว่าสุนัขมีก้อนขี้ตา หรือขี้หูเยอะผิดปกติหรือไม่ ขี้ตาเยอะผิดปกติ หรือแฉะผิดปกติ หรือสีของขี้ตาอาจจะผิดไปจากเดิมคือเปลี่ยนเป็นสีดำ สีเหลือง หรือสีเขียว นอกจากนี้สุนัขบางตัวอาจจะมีอาการหูบวม ที่เกิดจากการสะบัดแรงๆเวลาอาบน้ำ เช่นสุนัขสายพันธุ์บีเกิ้ล ลองจับหูของสุนัขดูนะคะ ว่ามีอาการบวมผิดปกติหรือไม่ นอกจากนี้ควรสังเกตเชื้อราด้วยนะคะ
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับ 8 Checklist เช็กความผิดปกติของสุนัขด้วยตัวเอง ทำได้ง่ายๆที่บ้าน ครูโจอี้หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เจ้าของสุนัขทุกคนสังเกตความผิดปกติของสุนัขได้อย่างรวดเร็ว และพาสุนัขไปรักษาได้ทันเวลานะคะ สำหรับครั้งหน้าครูโจอี้จะมาพร้อมกับเกร็ดความรู้ดีๆเรื่องไหนอีก อย่าลืมแวะมาติดตามกันนะคะ
สุดท้ายนี้ หากใครไม่อยากให้การเลี้ยงสุนัขกลายเป็นภาระ และ ปัญหา อย่าลืมเลือกใช้บริการฝึกสุนัขกับ โรงเรียนฝึกสุนัข Jojo House Dof Master นะคะ เพราะเราเชื่อว่าจิตวิทยาสุนัขเรียนรู้ได้ด้วยใจ และเราไม่ได้ฝึกแค่สุนัข แต่เราสอนเจ้าของสุนัขให้เป็นจ่าฝูงที่สามารถควบคุมสุนัขในบ้านได้ เรายินดีให้คำแนะนำภายใต้ "LETS" Concept ถ้าอยากรู้ว่าการฝึกสุนัขภายใต้ “LETS” Concept เป็นยังไงติดต่อเข้ามาได้เลยนะคะ
