โรคภูมิแพ้ในสุนัข (Allergy) ไม่อันตรายแต่แฝงไปด้วยคุณภาพชีวิตที่แย่ลง

 
อาการแพ้ของสุนัข หรือ โรคภูมิแพ้ในสุนัข (Allergy) กับโรคภูมิแพ้ในคน เหมือนกันหรือไม่? นี่คงเป็นคำถามของคนเลี้ยงสุนัขหลายๆคนเมื่อได้เห็นชื่อบทความเรื่องนี้แน่ๆใช่ไหมล่ะคะ วันนี้ครูโจอี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับโณคภูมิแพ้ในสุนัขกันค่ะ ไปดูกันดีกว่าว่าโรคภูมิแพ้ในสุนัขกับโรคภูมิแพ้ในคน เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร แล้วอาการของโรคภูมิแพ้ในสุนัขรักษาหรือป้องกันได้ยังไงบ้าง?

โรคภูมิแพ้ในสุนัข vs โรคภูมิแพ้ในคน เหมือนกันหรือไม่?

จริงๆแล้วเวลาที่คนเราเป็นภูมิแพ้ มักจะมีอาการ ไอ จาม คัดจมูก มีน้ำมูก คล้ายเป็นหวัด แต่อาการเหล่านี้จะเกิดเมื่อมีสิ่งเร้า หรือสิ่งกระตุ้นเท่านั้น อาการภูมิแพ้ในสุนัขที่พบบ่อยจะแตกต่างจากจากคนคือสุนัขจะมีอาการคันบริเวณที่มีการแพ้ ซึ่งอาการของภูมิแพ้ในสุนัขนี้ไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิต แต่ก็สามารถสร้างความรำคาญให้กับสุนัขและเจ้าของไม่น้อยเลยทีเดียว

สาเหตุของโรคภูมิแพ้ในสุนัข

โรคภูมิแพ้ในสุนัขเกิดได้จากหลายปัจจัย โดยในบทความนี้ครูโจอี้จะของแบ่งปัจจัยต่างๆออกเป็น 2 กลุ่มหลักดังนี้ค่ะ
 
 
 
 

โรคภูมิแพ้ในสุนัขที่เกิดจากปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้

อาการแพ้กลุ่มนี้เกิดได้จากความอ่อนแอของภูมิคุ้มกันของสุนัขเอง, สภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น ฝุ่น ควัน จากการก่อสร้าง, การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศหรือฤดูการ, ความชื้นในอากาศ เป็นต้น สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ในสุนัขได้ค่ะ

โรคภูมิแพ้ในสุนัขที่เกิดจากปัจจัยที่เราควบคุมได้

อาการแพ้กลุ่มนี้เกิดได้จากอาหารที่เราเลือกให้สุนัขรับประทาน, แชมพู หรือน้ำยาถูพื้นที่ใช้, ความเครียดของสุนัข (ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของเจ้าของ) เป็นต้น ซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้เป็นสิ่งที่เจ้าของสุนัขสามารถตัดสินใจหรือควบคุมได้

โรคภูมิแพ้ในสุนัขมีกี่แบบ? ภูมิแพ้แต่ละแบบมีวิธีรักษาหรือป้องกันได้อย่างไรบ้าง

 
 

โรคภูมิแพ้ หรือ อาการแพ้น้ำลายหมัด (flea allergic dermatitis.FAD)

อาการแพ้ชนิดนี้เป็นอาการที่พบได้บ่อยในสุนัข เกิดจากกการแพ้น้ำลายของหมัดที่มากัดสุนัข

วิธีป้องกัน / รักษา

เจ้าของสุนัขสามารถป้องกันอาการแพ้ชนิดนี้ได้โดยหมั่นกำจัดเห็บหมัดที่จะมากัดสุนัข (อ่านบทความ เห็บหมัด กับ โรคพยาธิเม็ดเลือดในสุนัข เกี่ยวข้องกันอย่างไร ใครเลี้ยงสุนัขต้องอ่าน! )
 
 
 
 

โรคภูมิแพ้ หรือ อาการแพ้อาหาร (Food Allergy)

อาหารเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เจ้าของสุนัขทุกคนต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากอาหารเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคภูมิแพ้ อาการแพ้อาหารสามารถเป็นได้ทั้งการแสดงอาการแพ้ที่ผิวหนังและการถ่ายเหลว สุนัขบางตัวอาจจะมีอาการขนร่วงด้วย หรือบางตัวอาจจะมีคราบน้ำตาที่มีกลิ่น เป็นต้น

วิธีป้องกัน / รักษา

เจ้าของสุนัขสามารถป้องกันอาการแพ้ชนิดนี้โดยให้สุนัขรับประทา นอาหาร BARF (Biologically Appropriate Raw Food) หรืออาหารสดแทนอาหารเม็ด ช่วยแก้ไขเรื่องเชื้อราและช่วยให้ผิวสุนัขไม่แห้ง สามารถช่วยลดอาการแพ้ได้ (อาหาร BARF อาจจะไม่เหมาะกับสุนัขทุกตัว ดังนั้นเจ้าของสุนัขควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอาหาร BARF ให้ดีก่อนเลือกมาให้สุนัขรับประทาน) โดยก่อนเริ่มให้สุนัขเปลี่ยนมารับประทานอาหาร BARF ควรพาสุนัขไปตรวจเลือดก่อน เพื่อเช็คสุขภาพของสุนัข หลังจากนั้นจึงให้สุนัขค่อยๆเปลี่ยนมาทานอาหาร BARF ประมาณ 1 เดือนแล้วค่อยพาสุนัขกลับไปตรวจเลือดอีกครั้งเพื่อดูความเปลี่ยนแปลง
 
 
 
 

โรคภูมิแพ้ หรือ อาการแพ้ที่เรียกว่าแอโทปี (Atopy)

โรคภูมิแพ้กลุ่มนี้เป็นอาการแพ้เกี่ยวกับการสูดดมละอองเกสรดอกไม้ (โดยเฉพาะต้นไม้จำพวกว่านต่างๆ) เชื้อรา ฝุ่นบ้าน และสารที่ล่องลอยในอากาศนั่นเองค่ะ อาการแพ้แอโทปีสามารถสังเกตุได้ที่บิเวณปากของสุนัข หากบริเวณปากเปลี่ยนเป็นสีแดงๆ แสดงว่าสุนัขอาจจะไปสูดดมสิ่งแปลกปลอมอะไรบ้างอย่างเข้าจนทำให้เกิดอาการแพ้

วิธีป้องกัน / รักษา

โรคภูมิแพ้ หรือ อาการแพ้ที่เรียกว่าแอโทปี (Atopy) สามารถป้องกันได้โดยการเลือกปลูกต้นไม้ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุนัข (อ่านบทความ ต้นไม้ 30 ชนิด ที่เป็นพิษต่อสุนัข เช็คด่วน!) และหมั่นทำความสะอาดที่อยู่อาศัยให้สะอาดอยู่เสมอนั่นเองค่ะ หากมีความจำเป็นต้องพาสุนัขออกนอกบ้านก็ควรใส่สายจูงสุนัขเพื่อควบคุมสุนัขให้ไกลจากบริเวณที่สุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอาการแพ้นะคะ
 
 
 
 

โรคภูมิแพ้ หรือ อาการแพ้ชนิดสัมผัส (Contact Allergy)

เป็นอาการแพ้ที่เกิดจากการที่สุนัขไปสัมผัสกับสารเคมีบางอย่าง เช่น สุนัขอาจจะไปนอนบนพื้นที่มีไอของน้ำยาทำความสะอาดที่ยังหลงเหลืออยู่ หรือแพ้แชมพู (อาการแพ้แชมพูอาจจะเกิดขึ้นภายหลังจากใช้แชมพูมาเป็นเวลาหนึ่ง เนื่องจากเกิดการสะสมของน้ำหอม หรือสารเคมีที่เราอาจจะล้างทำความสะอาดไม่หมด)

วิธีป้องกัน / รักษา

อาการแพ้ที่เกิดจากการที่สุนัขไปสัมผัสกับสารเคมีสามารถป้องกันได้โดยการเลือกใช้แชมพูที่มีความอ่อนโยนต่อผิวของสุนัข สามารถลองใช้แชมพูของเด็กหรือแชมพูยาที่คุณหมดแนะนำแทนได้ และเลือกน้ำยาทำความสะอาดพื้น (บริเวณที่สุนัขมีโอกาสไปสัมผัส) เป็นสูตรที่อ่อนโยน หลังจากทำความสะอาดพื้นควรรอให้พื้นแห้ง หรือเป่าพื้นให้แห้งก่อนที่จะปล่อยสุนัขเข้ามา
 
 
 
 

สุนัขทุกตัวมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้ไหม?

ภูมแพ้ในสุนัขพบได้ 15 % ในบรรดาสุนัขปกติทั่วไป (ข้อมูลจากโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ) โดยสุนัขแต่ละสายพันธุ์มีโอกาสที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ไม่เท่ากัน
 
 
 
 

โรคภูมิแพ้กับสุนัขพันธุ์เล็ก

เช่น ชิสุ ปอมเมอเรเนี่ยน มักมีโอกาศเป็นโรคภูมิแพ้ หรือ อาการแพ้อาหาร (Food Allergy) จำพวกโปรตีน ควรหลีกเลี่ยงการให้อาการที่มีโปรตีนสูง
 
 
 
 

โรคภูมิแพ้กับสุนัขพันธุ์หน้าสั้น

เช่น อิงริช บลูด็อก เฟรนช์บลูด็อก มักจะเป็นภูมิแพ้แต่กำเนิด ควรระมัดระวังการเลือกอาหาร โดยเลือกให้สุนัขทานสูตรปลาแทนไก่ (สุนัขบางกลุ่มอาจจะแพ้ปลาแทนแพ้ไก่ ต้องลองสักเกตุอีกทีนะคะ)
 
 
 
 

โรคภูมิแพ้กับสุนัขพันธุ์ขนสั้น

เช่น พิทบลู บีเกิ้ล บูเทอเรีย สุนัขขนสั้นมักแพ้ง่ายกว่าพันธุ์ขนยาว ไวต่อสิ่งเร้าค่อนข้างสูง การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของอากาศหรือความชื้นเพียวเล็กน้อยก็อาจจะทำให้สุนัขพันธุ์ขนสั้นเกิดเชื้อราบนผิวหนังได้
 
 
ลองกลับไปสังเกตุอาการของสุนัขดูนะคะว่าเข้าข่ายอาการแพ้ข้อไหนไหม หากสุนัขมีอาการแพ้จะได้รักษาและป้องกันได้ทันท่วงที ครูโจอี้หวังว่าข้อมูลเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ในสุนัขวันนี้จะเป็นประโยชน์กับเจ้าของสุนัขหลายๆท่านนะคะ สำหรับบทความเรื่องต่อไปครูโจอี้จะนำเกรี็ดความรู้เรื่องอะไรมาฝาก อย่าลืมแวะเวียนมาติดตามกันนะคะ
ติดตาม โรคภูมิแพ้ในสุนัข (Allergy) ไม่อันตรายแต่แฝงไปด้วยคุณภาพชีวิตที่แย่ลง เวอชั่นวีดีโอได้ที่นี่
 

Pin It on Pinterest