หมดปัญหา “น้องหมาเมารถ” พาน้องหมาเที่ยวปีใหม่ได้แบบสบายใจ

 
 
 
หยุดยาวทั้งที แน่นอนว่าหลายๆคนก็มีแพลนจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันใช่ไหมล่ะคะ สำหรับคนทั่วๆไปคงจะไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องกังวลใจมากนัก แต่สำหรับคนเลี้ยงสุนัขนั้น ไม่ใช่เลย เพราะการพาสุนัขเดินทางไปกับเราอาจจะทำให้สุนัขเกิดอาการเมารถได้ (อันนี้นับแค่เรื่องที่ต้องกังวลเมื่อต้องพาสุนัขเดินทางด้วยรถยนต์เท่านั้นนะคะ ยังไม่รวมถึงการเดินทางแบบอื่นๆ) วันนี้ Jojo House มีวิธีรับมือเมื่อน้องหมาเกิดอาการเมารถมาฝากกันค่ะ

สาเหตุที่ทำให้สุนัขมีอาการเมารถ

อาการเมารถของสุนัขเกิดจากการที่สุนัขเดินทางด้วยรถยนต์ที่มีการใช้ความเร็วไม่คงที่ ช้าบ้าง เร็วบ้าง ทำให้ช่องหูส่วนในทำงานไม่สมดุลกับสมองส่วนรับสัญญาณที่เกี่ยวกับความเคลื่อนไหว นอกจากนี้อาการเมารถในสุนัขอาจจะเกิดได้จากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้อีกด้วย เพราะสภาพแวดล้อมในรถยนต์มีความคับแคบ หรือบางครั้งในรถยนต์อาจจะมีกลิ่นที่สุนัขไม่คุ้นเคย ทำให้สุนัขเกิดความเครียด จิตใจไม่มั่นคง สับสนหรือมึนงงจนทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนออกมาได้นั่นเอง
 
 
 
 

จะรู้ได้ยังไงว่าสุนัขมีอาการเมารถ?

วิธีสังเกตุว่าน้องหมาของเรานั้นมีอาการเมารถรึเปล่าสามารถดูได้จากอาการต่อไปนี้ค่ะ น้องหมามีอาการตื่นเต้น น้ำลายไหลมากกว่าปกติ เลียปากมากขึ้น กระสับกระส่าย เดินเซ หอบ ทำท่าเหมือนอยากจะอาเจียน หรือมีอาการอาเจียน ฯลฯ ถ้าเจออาการเหล่านี้สันนิษฐานได้เลยค่ะว่าน้องหมาของเราอาจจะเกิดอาการเมารถเข้าให้แล้ว

จะรับมือกับน้องหมาที่มีอาการเมารถยังไง?

หากพบว่าน้องหมามีอาการเมารถตามที่ได้กล่าวมาด้านบนแล้ว แนะนำให้รีบหยุดรถทันที แล้วค่อยๆพาน้องหมาลงไปเดินบนพื้นดินเพื่อผ่อนคลาย ความเครียดและความวิตกกังวล พร้อมทั้งให้น้องหมาได้กินน้ำและทำธุระส่วนตัว แต่ไม่ควรให้รับประทานอาหารใด ๆ เพราะน้องหมาอาจจะอาเจียนออกมาได้ ในกรณีที่ต้องเดินทางไกลและใช้เวลานานแนะนำให้หยุดพักทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้น้องหมาได้ออกมาคลายเครียด โดยหากจำเป็นต้องมีการให้น้ำและอาหารแก่น้องหมาก็สามารถทำได้ โดยให้ในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไป และต้องพักรอประมาณ 1 ชั่วโมงจึงจะเริ่มเดินทางต่อ
 
 
 
 

มีวิธีป้องกันไม่ให้สุนัขเมารถไหม?

แน่นอนว่าอ่านมาถึงตรงนี้หลายๆคนคงจะมีคำถามในใจว่าแล้วจะมีวิธีป้องกันไม่ให้สุนัขเมารถรึเปล่า เพราะคนยังมียาป้องกันอาการเมารถเลย แล้วน้องหมาล่ะ? จริงๆแล้วสุนัขก็มียาแก้เมารถเหมือนกับคนเรานี่แหละค่ะ แต่จะต้องให้สัตวแพทย์เป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น ห้ามซื้อยาแก้เมารถให้น้องหมาด้วยตัวเอง เพราะอาจจะทำให้น้องหมาได้รับยาเกินขนาดจนอาจจะเป็นอันตรายได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกใช้ยาแก้เมารถก็ไม่ใช่ทางออกสุดท้ายในการป้องกันน้องหมาไม่ให้เมารถ การฝึกน้องหมาให้คุ้นชินกับการเดินทางเป็นทางออกที่ยั่งยืนและปลอดภัยมากกว่าการใช้ยาอย่างแน่นอนค่ะ ใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวควรจะใช้เวลาก่อนถึงกำหนดเที่ยวสัก 1-2 อาทิตย์ พาน้องหมาออกมานั่งรถ ฝึกให้คุ้นชินกับการเดินทาง โดยค่อยๆเริ่มจากระยะทางใกล้ๆก่อนเพื่อให้น้องหมาคุ้นชินทีละนิด แล้วค่อยๆเพิ่มระยะทางขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อฝึกให้น้องหมาคุ้นเคยกับการนั่งรถ ลดอาการประหม่า ตื่นเต้นของน้องหมา แค่นี้ก็ช่วยป้องกันอาการเมารถลงได้แล้วล่ะค่ะ แต่สำหรับใครที่พยายามฝึกให้น้องมากคุ้นชินกับการนั่งรถแต่ไม่ประสบความสำเร็จสักทีการเลือกใช้ยาแก้เมารถให้น้องหมาอาจจะตอบโจทย์การป้องกันการเมารถของน้องหมาได้มากกว่า โดยจะต้องให้ยาแก้เมารถก่อนเดินทางประมาณ 30 นาที

เป็นยังไงกันบ้างคะกับวิธีรับมือกับอาการเมารถของน้องหมา หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้การเดินทางของคุณและครอบครัวรวมถึงเจ้าตูบแสนรักในทริปหยุดยาวนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขนะคะ Jojo House Dog Master ขอให้น้องหมาและทุกคนเดินทางไปเที่ยวโดยสวัสดิภาพ ปลอดภัย ทั้งไปและกลับนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ

สำหรับใครที่ไม่มีเวลาพาน้องหมาออกไปฝึกนั่งรถเพื่อให้เกิดความคุ้นชินกับการเดินทาง หรือไปเที่ยวในสถานที่ที่ไม่อนุญาติให้นำสุนัขเข้าไป การเลือกใช้บริการรับฝากสุนัขที่มีมาตรฐานก็เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า น้องหมาของคุณจะได้รับการดูแลเอาใจใส่ Jojo House Dog Master บริการรับฝากเลี้ยงสุนัขด้วยความรักและความเข้าใจ มั่นใจได้ว่าสุนัขของคุณจะปลอดภัยและมีความสุขในระหว่างที่เราดูแล ช่วยให้คุณเดินทางไปเที่ยวหรือทำธุระได้อย่างมั่นใจ ไร้กังวล
 

Pin It on Pinterest