พบมากในสุนัขแรกเกิดถึงอายุ 2 - 3 เดือน เกิดจากเชื้อไวรัส Paramyxoviridae
หายใจลำบาก และมีอาการปอดบวม เบื่ออาหาร ซึม มีไข้ มีน้ำมูกสีเขียว มีขี้ตาสีเขียว มีตุ่มเกิดขึ้นใต้ท้องถ้าสุนัขทนอยู่ได้นาน จะแสดงอาการฝ่าเท้าแข็งและมีอาการทางระบบประสาท ริมฝีปากสั่น ชักกระตุก เป็นอัมพาต อาจมีอาการท้องเสียด้วย และตายในที่สุด ระยะเวลาตั้งแต่ได้รับเชื้อจนเริ่มแสดงอาการไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของสุนัขแต่ละตัว
ทางระบบการหายใจ และการสัมผัสกับสิ่งขับถ่าย เช่น อาหารที่ติดเชื้อ น้ำมูก ขี้ตา น้ำลาย ปัสสาวะ อุจจาระ
ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ การทำวัคซีนจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุ 2 เดือน ฉีดซ้ำครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรก 2 อาทิตย์ถึง 1 เดือน และฉีดซ้ำทุกๆปี ปีละครั้ง
พบมากในสุนัขอายุ 2 - 6 เดือน
เกิดจากเชื้อไวรัส Parvovirus , Coronavirus
หลังจากรับเชื้อเข้าไป 7 - 10 วัน สุนัขจะเริ่มอาเจียนบ่อย มีไข้สูงต่ำสลับกัน เบื่ออาหาร ซึม อุจจาระเหลว ท้องร่วงอย่างรุนแรง อุจจาระเป็นน้ำ สีน้ำตาล หรือปนแดง กลิ่นเหม็นมาก ช็อคจากการสูญเสียน้ำ เลือด และ พลังงาน ลูกสุนัขจะเสียชีวิตอย่างรวดเร็วเนื่องมาจาก เชื้อไวรัสทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
ทางการสัมผัส หรือติดเชื้อจากอุจจาระของสุนัขที่ป่วย ไม่มียารักษาโดยตรง ต้องให้ยาช่วยตามอาการ แก้ไขภาวะขาดน้ำ ลดอาการแทรกซ้อน
ฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุ 2 เดือน และฉีดซ้ำหลังจากครั้งแรก 1 เดือน หลังจากนั้นฉีดทุกๆปี ปีละครั้ง
พบในสุนัขทุกวัย พบบ่อยในสุนัขอายุไม่เกิน 1 ปี
เกิดจากเชื้อไวรัส Canine adenovirus type 2
ไข้สูง เบื่ออาหาร ซึม ท้องเสีย เยื่อเมือกต่างๆซีด มีจุดเลือดออกตามตัว ต่อมน้ำเหลืองบวม ต่อมทอนซิลขยายใหญ่ บวมน้ำใต้ผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณลำคอ กระจกตาขุ่น ในรายที่เป็นรุนแรง อาจตายภายใน 24 - 72 ชั่วโมง
ทางน้ำลาย และการสัมผัสกับสิ่งขับถ่าย เช่น ปัสสาวะ อุจจาระ
ไม่มียารักษา ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของสุนัข และความรุนแรงของเชื้อ
ฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุ 2 เดือน ฉีดซ้ำครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรก 1 เดือน และฉีดซ้ำทุกๆปี ปีละครั้ง
พบในสุนัขทุกวัย และสามารถติดต่อถึงคนได้
เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Leptospira canicola , L. icterohaemorrhagiae
ไข้สูง เบื่ออาหาร ซึม อาเจียน หายใจขัด กระหายน้ำ ตัวเหลือง ขาหลังสั่น และเกร็ง ไม่ยอมลุกเดินไปไหน เยื่อบุช่องปากอาจมีจุดเลือดออก ตายภายใน 5 - 10 วัน หลังจากแสดงอาการ
เชื้อปนเปื้อนกับปัสสาวะของสัตว์ป่วย มีหนูเป็นตัวนำโรค
ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเชื้อ และการวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็ว
ฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุ 2 เดือน ฉีดซ้ำครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรก 1 เดือน และฉีดซ้ำทุกๆปี ปีละครั้ง
พบมากในสุนัขอายุเดือนครึ่งถึง 6 เดือน
เกิดจากเชื้อไวรัส Canine Adenovirus type 1 และ Canine Parainfluenze Virus หรือเชื้อแบคทีเรีย Bordetella bronchiseptica
ไอแห้งๆ เป็นเวลานาน เบื่ออาหาร มีไข้ ปอดบวม โอกาสเสียชีวิตด้วยโรคนี้น้อย แต่ต้องระวังไม่ให้ติดเชื้อแทรกซ้อน อาการอาจจะรุนแรงในลูกสุนัข
ทางระบบการหายใจ จากละอองน้ำมูก น้ำลาย ที่สุนัขป่วยไอออกมา
ส่วนใหญ่จะประสบความสำเร็จ ต้องรักษาตามอาการ เช่นให้ยา antibiotic แก้ไอ ลดน้ำมูก ลดไข้ เป็นต้น
ทำวัคซีนตั้งแต่อายุ 1 เดือน ซ้ำครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรก 2 - 3 อาทิตย์ วัคซีนมักเป็นลักษณะ หยอดจมุก
จัดเป็นโรคติดต่อร้ายแรง เป็นได้ทุกฤดูกาล ไม่เฉพาะแต่หน้าร้อน และสามารถติดต่อไปถึง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด รวมทั้งคนด้วย
เกิดจากเชื้อไวรัส Rhabdo Virus
แบ่งเป็น 2 แบบ คือแบบดุร้าย กับแบบเซื่องซึม
ทางน้ำลาย และบาดแผลจากการกัด
ไม่มีวิธีรักษา สุนัขที่รับเชื้อนี้จะตายภายในระยะเวลาไม่นาน แนะนำให้กำจัดสุนัขตัวนั้น เนื่องจากเป็นโรคติดต่อสู่คนได้
ฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุ 3 เดือน ฉีดซ้ำทุกปี